ผลโกจิเบอร์รี่ หรือ เก๋ากี้
ผลโกจิเบอร์รี่ หรือมีชื่อในภาษาอังกฤษว่า Chinese Wolfberry ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทางเภสัชศาสตร์ว่าเป็นพืชในตระกูล Lyceum Barum มีแหล่งกำเนิดในประเทศจีน
"โกจิเบอร์รี่ (เก๋ากี้) ผลวิจัยในต่างประเทศพบว่า อุดมด้วยแคโรทีนอยด์ และซีแซนทีน ช่วยเรื่องการมองเห็น หรือสายตา เพิ่มความสามารถในการมองเห็น รักษาโรคตาบอดกลางคืน โดยเพิ่มประสิทธิภาพการรับภาพ และป้องกันแสง โดยเฉพาะแสงสีน้ำเงิน และสีฟ้า ทำให้ดวงตาเสื่อมช้าลง มักถูกแปรรูปเป็นเครื่องดื่มน้ำผลไม้ ต้มเพื่อดื่มน้ำ และใช้ในเชิงสมุนไพรสำหรับประกอบอาหารด้วย"
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan) ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังแสดงให้เห็นว่า แคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ชนิดซีแซนทิน(Zeaxanthin) ในเก๋ากี้ จะสามารถช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของดวงตา ช่วยส่งเสริมการทำงานของจอประสาทตา และการมองเห็นในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
สรรพคุณ และ ประโยชน์ของ (เก๋ากี้) เช่น :
- ช่วยบำรุงสายตา และป้องกันแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตา
- ช่วยผู้มีอาการ ต้อลม ตาพร่า ตามัว ให้คืนสู่สภาพปกติ
2. สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในบรรดาผักและผลไม้อื่นๆ คือ มีค่า ORAC สูง 25,300 uniteข้อเฉพาะของการทานเก๋ากี้
3. มีวิตามิน บี1 บี2 บี6 และวิตามินอี มีวิตามินซีสูงกว่าส้ม 500 เท่า (เป็นพืชที่มีวิตามินิซีสูงเป็นอันดับสอง รองจาก คามู คามูเบอร์รี่)
อย่างไรก็ตาม จะสังเกตเห็นว่าการทานเก๋ากี้ในบ้านเรายังมีวิธีการใช้ที่ยังไม่ค่อยถูกต้อง ส่วนใหญ่จะใส่เก๋ากี้ พร้อมกับเครื่องปรุงลงไปในอาหารที่กำลังเดือด และร้อนจัดตุ๋นจนเปื่อย ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้สาระสำคัญที่ได้รับขาดหายไป และรสชาติของอาหารที่ได้จะออกรสเปรี้ยวมากกว่า
ข้อเฉพาะของการทานเก๋ากี้
มีแพทย์ออกมากล่าวไว้ดังนี้ เก๋ากี้นั้นอาจมีปฏิกิริยากับยาบางชนิด เช่น ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) ซึ่งอยู่ในกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด, ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง, ยารักษาโรคเบาหวาน และอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในผู้ที่มีประวัติแพ้เกสรดอกไม้ ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยง หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อนทาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น