วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558

อาหารสีม่วง ยาดีๆนี่เอง

มีการวิจัยพบว่าแอนโทไซยานินมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและอีถึง 2 เท่า
สามารถชะลอการเกิดโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือดและโรคหลอดเลือดหัวใจแข็งตัวได้
เสริมสมรรถภาพการมองเห็นและลดปัญหาที่เกิดกับระบบการหมุนเวียนของเลือด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
รู้แบบนี้ต้องหาผักผลไม้สีม่วงมาทานกันบ้างแล้วค่า 

อาหารที่เป็นแหล่งสำคัญของแอนโทไซยานิน ได้แก่


ผลไม้ เช่น องุ่น ทับทิม และผลไม้ในกลุ่มเบอร์รี่ เช่น 
  • สตอเบอรี่ (strawberry) ผลหม่อน (mulberry) บลูเบอรี่ (blueberry)  แครนเบอรี่ (cranberry)  เชอรี่ (cherry)  ราสเบอรี่ (raspberry) เป็นต้น

    • ผัก เช่น กะหล่ำปลีสีม่วง (red cabbage) และเรดิชสีแดง (red radish) มะเขือม่วง Eggplant
    • เมล็ดธัญพืช เช่น ข้าวก่ำ หรือข้าวสีนิล ข้าวโพดสีม่วง
    • พืชหัว ได้แก่ มันเทศสีม่วง
    • ดอกไม้ เช่น กระเจี๊ยบแดง และดอกอัญชัน เป็นต้น
    •  แหล่งของแอนโทไซยานิน ได้แก่ มันเทศสีม่วง ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่แดง ลูกหว้า ข้าวแดง ข้าวนิล ข้าวเหนียวดำ ถั่วแดง ถั่วดำ หอมแดง ดอกอัญชัน น้ำว่าน-กาบหอย เผือก หอมหัวใหญ่สีม่วง มะเขือม่วง พริกแดง องุ่นแดง-ม่วง แอปเปิลแดง ลูกไหน ลูกพรุน ลูกเกด ลูกหม่อน (มัลเบอรี่) บลูเบอรี่ เชอรี่ แบล็กเบอรี่ ราสเบอรี่ สตรอเบอรี่
    แอนโทไซยานินมีคุณสมบัติแตกต่างกันทั้งทางเภสัชวิทยาและชีววิทยา เช่น
    • เป็นสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (biological activity)
    • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ(antioxidant)
    • สามารถลดอาการอักเสบ (anti-inflammatory)
    • ช่วยปกป้องหลอดเลือด ลดคอเลสเตอรอลในเลือดลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งและต้านไวรัส
    • แต่คุณสมบัติเด่นที่สุดของแอนโทไซยานินคือ ประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระโดยแอนโทไซยานิน
    • มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีและอีถึง 2 เท่าปริมาณของแอนโทไซยานินที่มนุษย์
    • สามารถบริโภคได้เฉลี่ยสูงสุดคือ 200 มิลลิกรัมต่อวัน

    ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น